สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาตึงเครียด กองทัพภาคที่ 2 เผยปราสาทพระวิหารเป็นจุดซุ่มยิงพลแม่นปืน
ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานสรุปสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ณ เวลา 12.00 น. ของวันที่ 27 กรกฎาคม 2568 โดยระบุถึงความตึงเครียดที่ยังคงดำเนินอยู่ในพื้นที่ด้านหน้าเขาพระวิหาร รายงานดังกล่าวยังเปิดเผยว่า กองกำลังกัมพูชายังคงใช้ยุทธวิธีในการใช้พลซุ่มยิง (Sniper) จากบริเวณปราสาทพระวิหารเป็นอาวุธหลักในการโจมตีกำลังพลของฝ่ายไทย ซึ่งเป็นข้อบ่งชี้ถึงสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนและความจำเป็นในการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง
การใช้พลซุ่มยิงจากจุดยุทธศาสตร์เช่นปราสาทพระวิหาร นับเป็นความท้าทายอย่างยิ่งสำหรับกองกำลังป้องกันชายแดนไทย ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่ซับซ้อนและตำแหน่งของปราสาทที่สูงกว่า ทำให้ฝ่ายตรงข้ามได้เปรียบในการซ่อนตัวและเล็งเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ การโจมตีด้วยอาวุธประเภทนี้มักมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความหวาดกลัว ลดขวัญกำลังใจของทหาร และก่อให้เกิดความสูญเสียในระดับปัจเจกบุคคล ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อภาพรวมของปฏิบัติการป้องกันชายแดน
ภายหลังจากการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว ได้มีการเผยแพร่ภาพถ่ายที่อ้างว่าเป็นจุดที่ทหารกัมพูชาวางกำลังพลซุ่มยิง โดยภาพดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงบริเวณที่ซ่อนตัวในป่าใกล้กับปราสาทพระวิหาร ซึ่งยืนยันถึงวิธีการที่ฝ่ายกัมพูชาใช้ในการปฏิบัติการโจมตี การเปิดเผยภาพนี้ทำให้สาธารณชนได้รับทราบถึงยุทธวิธีที่ใช้ในการสู้รบ และเน้นย้ำถึงอันตรายที่ทหารไทยต้องเผชิญในแต่ละวันตามแนวชายแดน
สถานการณ์เช่นนี้ตอกย้ำถึงความจำเป็นในการเสริมสร้างมาตรการป้องกันและรักษาความปลอดภัยของกำลังพลไทย เพื่อลดความเสี่ยงจากการถูกโจมตีโดยพลซุ่มยิง การวางแผนปฏิบัติการที่รัดกุม การใช้อุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสม และการฝึกซ้อมเพื่อรับมือกับสถานการณ์การซุ่มโจมตีจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้ทหารไทยสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุดในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ
ความคืบหน้าของสถานการณ์การสู้รบยังคงเป็นที่จับตาของทุกฝ่าย ทั้งจากประชาชนในประเทศและประชาคมระหว่างประเทศ การรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนเป็นภารกิจที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อน ซึ่งต้องอาศัยทั้งความแข็งแกร่งทางทหารและแนวทางการทูตเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งอย่างยั่งยืน การรายงานข่าวจากศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 จึงเป็นข้อมูลสำคัญที่สะท้อนถึงสถานการณ์จริงที่กำลังเกิดขึ้น และเป็นประโยชน์ต่อการวิเคราะห์และวางแผนรับมือในอนาคต
https://www.facebook.com/photo?fbid=1234211495402263&set=a.648490497307702
