https://centaursystem14th.com/wod/fLJwYinxrGV.png จากกรณีที่เป็นที่ฮือฮาในโลกโซเชียลมีเดีย กรณีที่ปรากฏภาพและคลิปวิดีโอของทหารกัมพูชาจำนวนหนึ่ง ที่ดูเหมือนจะปฏิบัติภารกิจทางทหารไปพร้อมๆ กับการบันทึกภาพและสร้างสรรค์เนื้อหา (content) ในรูปแบบต่างๆ จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์และตั้งคำถามถึงความเหมาะสม และวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการกระทำดังกล่าว ซึ่งหากมองผิวเผิน การกระทำนี้อาจดูเป็นเรื่องแปลกใหม่ และสะท้อนให้เห็นถึงการเข้ามามีบทบาทของเทคโนโลยีดิจทัลและแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียในทุกมิติของชีวิต แม้กระทั่งในแวดวงความมั่นคงและการทหารที่ปกติจะมีความเคร่งครัดและเป็นไปตามระเบียบแบบแผนอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม ปรากฏการณ์นี้ได้นำไปสู่การถกเถียงอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับนิยามของ “การทำหน้าที่” ของทหารในยุคปัจจุบัน ว่าควรจะจำกัดอยู่แค่เพียงภารกิจด้านความมั่นคงตามกรอบเดิมหรือไม่ หรือควรจะเปิดกว้างให้มีมิติอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ข้อมูลข่าวสารไหลเวียนอย่างรวดเร็วและมีอิทธิพลอย่างมหาศาลต่อการรับรู้ของสาธารณะ การที่ทหารจะใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียในการสื่อสารเรื่องราว หรือแม้แต่ปฏิบัติภารกิจบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับการประชาสัมพันธ์ อาจเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในอนาคต แต่คำถามคือ ขอบเขตของการกระทำดังกล่าวควรอยู่ตรงไหน และสิ่งใดคือ “เส้นแบ่ง” ที่เหมาะสม
ผู้เชี่ยวชาญบางรายให้ความเห็นว่า การที่ทหารจะใช้สื่อโซเชียลมีเดียเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดี หรือเพื่อภารกิจด้านการข่าวกรอง หรือแม้แต่การปฏิบัติการทางจิตวิทยา ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพียงแต่รูปแบบและวิธีการอาจจะเปลี่ยนไปตามยุคสมัย การทำคอนเทนต์ในลักษณะดังกล่าว อาจเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การสื่อสารที่ทันสมัยขึ้น เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น หรือเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะกิจบางอย่างที่อาจยังไม่ถูกเปิดเผย อย่างไรก็ตาม การกระทำที่ดูเหมือนจะเน้นไปที่การสร้างความบันเทิง หรือการสร้างกระแสบนโลกออนไลน์ อาจจะทำให้เกิดข้อกังขาถึงความจริงจังในการปฏิบัติภารกิจหลักของทหาร และอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของกองทัพในภาพรวมได้เช่นกัน
ดังนั้น การที่ทหารกัมพูชาจะได้รับการ “เลื่อนยศให้เป็นทหารครีเอเตอร์” ตามที่ล้อเลียนกันในโซเชียลมีเดียนั้น คงไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นจริงในทางปฏิบัติ แต่เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่ส่งผลกระทบต่อทุกองค์กร การที่หน่วยงานความมั่นคงจะนำเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มใหม่ๆ มาปรับใช้ ย่อมเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อความอยู่รอดในโลกยุคดิจทัล แต่สิ่งสำคัญคือจะต้องคำนึงถึง “หลักการ” และ “ภารกิจหลัก” ขององค์กรเป็นสำคัญ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนหรือเข้าใจผิดในบทบาทหน้าที่ที่แท้จริง
ท้ายที่สุด ประเด็นนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องของ “ทหารถ่ายคอนเทนต์” แต่เป็นกระจกสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่สังคมยุคใหม่กำลังเผชิญ ในการทำความเข้าใจและปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีและสื่อโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญต่อความมั่นคงของชาติ การสร้างสมดุลระหว่างการนำเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์ และการธำรงไว้ซึ่งหลักการและภารกิจหลัก จึงเป็นสิ่งที่ทุกภาคส่วนจะต้องขบคิดและหาทางออกร่วมกันอย่างรอบคอบ <iframe src=" width=”424″ height=”476″ style=”border:none;overflow:hidden” scrolling=”no” frameborder=”0″ allowfullscreen=”true” allow=”autoplay; clipboard-write; encrypted-media; picture-in-picture; web-share” allowFullScreen=”true”>