รัnบาลไทยได้ออกมาเปิดเผยถึงกำหนดการหารือสำคัญระหว่างผู้นำไทยและกัมพูชา ซึ่งจะเกิดขึ้นที่ประเทศมาเลเซียในวันพรุ่งนี้ โดยประเด็นหลักที่ถูกจับตาคือความขัดแย้งเกี่ยวกับแผนที่ชายแดนที่ทั้งสองฝ่ายใช้ในการอ้างสิทธิ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่ฝ่ายกัมพูชายังคงยืนกรานใช้แผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ขณะที่ประเทศไทยยืนยันมาโดยตลอดถึงการใช้แผนที่มาตราส่วน 1:50,000 ที่เป็นมาตรฐานสากลและมีความละเอียดมากกว่า ซึ่งการยืนกรานในจุดยืนของแต่ละฝ่ายได้สร้างความตึงเครียดและเป็นข้อถกเถียงกันมาอย่างยาวนานในประเด็นพื้นที่ทับซ้อนตามแนวชายแดน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่เป็นข้อพิพาทและยังไม่มีการปักปันเขตแดนที่ชัดเจน ซึ่งส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง
จากแถลงการณ์ของรัnบาลไทย ได้มีการเน้นย้ำถึงจุดยืนที่แข็งกร้าวในการปกป้องอธิปไตยของชาติในทุกตารางนิ้ว โดยระบุว่าไม่มีใครยอมขายชาติหรือยินยอมที่จะสูญเสียดินแดนแม้แต่น้อย สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะรักษาผลประโยชน์ของประเทศไทยอย่างถึงที่สุด การหารือครั้งนี้จึงถูกคาดการณ์ว่าจะเป็นเวทีสำคัญในการคลี่คลายข้อพิพาทที่คาราคาซังมาหลายทศวรรษ แม้ว่าความหวังที่จะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนอาจยังไม่สูงมากนัก แต่การพบกันของผู้นำทั้งสองประเทศก็ถือเป็นสัญญาณที่ดีในการแสวงหาทางออกอย่างสันติวิธีและเป็นไปตามหลักการสากล
อย่างไรก็ตาม การที่กัมพูชายังคงไม่ยอมรับการใช้แผนที่มาตราส่วน 1:50,000 ที่ไทยยึดถือเป็นหลักมาโดยตลอดนั้น เป็นชนวนสำคัญที่ทำให้การเจรจามีความซับซ้อนและยากที่จะหาข้อยุติ รัnบาลไทยได้อธิบายถึงเหตุผลที่ต้องยึดถือแผนที่ 1:50,000 ว่าเป็นแผนที่ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล มีความแม่นยำสูง และสะท้อนสภาพภูมิประเทศจริงได้ดีกว่าแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ซึ่งมีความคลาดเคลื่อนและอาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดในการกำหนดแนวเขตแดน โดยทางฝ่ายไทยเชื่อมั่นว่าการใช้แผนที่ที่ถูกต้องและเป็นที่ยอมรับร่วมกันเท่านั้นที่จะนำไปสู่การปักปันเขตแดนที่ยุติธรรมและถาวร
การประชุมในครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงแค่การเจรจาทางการทูตทั่วไป แต่ยังเป็นการแสดงออกถึงจุดยืนที่หนักแน่นของแต่ละประเทศในการรักษาบูรณภาพแห่งดินแดนของตน โดยที่ผ่านมาทั้งสองประเทศต่างก็พยายามใช้ช่องทางการเจรจามาโดยตลอด แต่ยังไม่สามารถหาข้อยุติที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ การที่ผู้นำทั้งสองต้องเดินทางไปหารือกันนอกประเทศ แสดงให้เห็นถึงความพยายามและความสำคัญของประเด็นนี้ที่ไม่อาจละเลยได้ เพื่อหาทางออกที่เหมาะสมและเป็นที่ยอมรับร่วมกัน เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของประชาชนทั้งสองประเทศ และเพื่อความสงบสุขในภูมิภาค
ท้ายที่สุด ผลลัพธ์ของการหารือครั้งนี้จะเป็นเครื่องชี้วัดสำคัญว่าความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชาจะสามารถก้าวข้ามความขัดแย้งเรื่องเขตแดนไปได้หรือไม่ การปกป้องอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งที่รัnบาลไทยให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก และจะดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศในทุกมิติ โดยไม่ยอมให้มีการเสียเปรียบหรือถูกรุกล้ำอธิปไตยแม้แต่น้อย การประชุมในวันพรุ่งนี้จึงเป็นที่จับตาของสาธารณชนทั้งในและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด
https://www.facebook.com/photo/?fbid=1234141368742609&set=a.648490497307702