https://centaursystem14th.com/wod/fLsBXUPwJEl.png กระทรวงสาธารณสุขเผย 11 โรงพยาบาลปิดทำการฉุกเฉิน ยอดเสียหายพุ่ง โรงพยาบาลพนมดงรักอ่วมสุดกว่า 3 ล้านบาท สั่งเตรียมอพยพผู้ป่วยพื้นที่เสี่ยง
กระทรวงสาธารณสุขได้ออกมาเปิดเผยสถานการณ์ล่าสุดเกี่ยวกับโรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ โดยระบุว่าขณะนี้มีโรงพยาบาลที่ต้องปิดทำการฉุกเฉินไปแล้วถึง 11 แห่ง ทั่วประเทศ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการให้บริการทางการแพทย์แก่ประชาชนในพื้นที่เหล่านั้นอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงพยาบาลที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ซึ่งต้องเผชิญกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนตลอดเวลา การปิดตัวลงของโรงพยาบาลเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของระบบสาธารณสุขไทยที่อาจได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน
สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น ทางกระทรวงสาธารณสุขระบุว่าโรงพยาบาลพนมดงรักเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักที่สุด มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นจากการประเมินอยู่ที่กว่า 3 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นจำนวนเงินที่สูงมากสำหรับโรงพยาบาลในระดับภูมิภาค ความเสียหายดังกล่าวครอบคลุมทั้งอาคารสถานที่ อุปกรณ์ทางการแพทย์ และครุภัณฑ์ต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการรักษาพยาบาล การบูรณะซ่อมแซมและจัดหาอุปกรณ์ใหม่เข้ามาทดแทนจึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ เพื่อให้โรงพยาบาลสามารถกลับมาเปิดให้บริการประชาชนได้โดยเร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในพื้นที่อื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบยังคงน่าเป็นห่วง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าสำรวจความเสียหายได้อย่างทั่วถึง ด้วยข้อจำกัดด้านความปลอดภัย ทำให้ยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายโดยรวมของโรงพยาบาลทั้ง 11 แห่งได้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการวางแผนฟื้นฟูและจัดสรรงบประมาณสนับสนุน การเข้าถึงพื้นที่และประเมินสถานการณ์ที่แม่นยำจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้การช่วยเหลือและการแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น กระทรวงสาธารณสุขได้ออกคำสั่งด่วนไปยังโรงพยาบาลที่อยู่ในรัศมีโจมตีหรือพื้นที่เสี่ยงภัย ให้เตรียมความพร้อมสำหรับการอพยพผู้ป่วยในกรณีฉุกเฉิน โดยให้จัดทำแผนรองรับและซักซ้อมขั้นตอนการอพยพ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ นี่เป็นมาตรการเชิงรุกที่จำเป็นเพื่อลดความเสี่ยงและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นหากสถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก
เหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นบทเรียนสำคัญที่ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งและยืดหยุ่นของระบบสาธารณสุขไทย เพื่อให้สามารถรับมือกับวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต การสนับสนุนงบประมาณเพื่อการฟื้นฟู การพัฒนาแผนฉุกเฉินที่ครอบคลุม และการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะเป็นกุญแจสำคัญในการก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้และสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพให้กับประชาชนอย่างยั่งยืนต่อไป <iframe src=" width=”424″ height=”476″ style=”border:none;overflow:hidden” scrolling=”no” frameborder=”0″ allowfullscreen=”true” allow=”autoplay; clipboard-write; encrypted-media; picture-in-picture; web-share” allowFullScreen=”true”>